B1C2:ความเด็ดเดี่ยว
บ้านสายหมอกตั้งอยู่บนเชิงเขาของภูเขา ดงหลาน ข้างหน้ามีกลุ่มทหารคลั่งลาตตระเวนอยู่
เเต่มีผู้เชี่ยวชาญเท่าไหร่ที่มีความลับที่บุคคลภายนอกไม่รู้จัก นอกจากนี้เพราะว่าบ้านสายหมอก
เป็นของเจ้าชายเเวนฉีชิงตะวันออก มีเเต่คนที่เบื่อชีวิตเท่านั้นที่จะมาก่อเรื่องที่นี้
ข้างนอกของบ้านสายหมอกมี 2 สิงโตหินขนาดใหญ่และ 2 ทหารที่สวมใส่ชุดเกราะสีดำยืนตรง
ที่ด้านข้างของประตูทางเข้าหลัก พวกเขาเหลือบมองออกไปด้านนอกตลอดเวลา มองดูพวกเขาทั้ง
2 ช่างฏโดดเดี่ยวเหลือเกิน ต้นสนที่สง่าขนาดใหญ่ ร่างกายที่แข็งแกร่งมีบรรยากาศของการสังหาร
บรรยากาศของการสังหารมีเพียงทหารที่ไผ่านการต่อสู้นองเลือดเท่านั้นที่สามารถมีได้
'องค์ชายสายม'
ทหารเกราะสีดำ 2 คนคุกเข่าลงทันทีและบอกพูดอย่างเคารพ
ฉินหยูโดดลงมาจากหลังเสืออย่างรวดเร็ว อินทรีดำยืนอย่างมั่นคงบนไหล่ของเขา
เห็นได้ชัดว่าฉินหยูมีความสุขเเละตื่นเต้นมากในตอนนี้เขาวิ่งผ่านประตูทางเข้าอย่างรวดเร็ว
และในเวลาเดียวกันเขาก็หัวเราะให้กับทหารที่ 2 คนนั้น 'ท่านลุงโปรดยืนขึ้นเถอะ'
ทหารเกราะสีดำทั้ง 2 คนนั้นลุกขึ้นยืนมีเเววของความรักในสายตาของพวกเขาขณะที่พวกเขาเห็น
ร่างเล็ก ๆของ ฉินหยู วิ่งเข้าไปในลานบ้าน
'ฮ่า ฮา, พี่ใหญ่และพี่รองจะต้องไปแช่ในบ่อน้ำพุร้อนเเน่ โดยไม่ต้องคิดมากฉินหยู
วิ่งตรงไปยังบ่อน้ำพุร้อนในสวนทางทิศตะวันตกของบ้านสายหมอก เขาพึมพำ
'ฮึ ฮึ เห็นได้ชัดว่าฉันคือเจ้าของบ้านสายหมอก 2 คนนั้นกล้าเข้าไปแช่น้ำพุร้อน
โดยได้รับอนุญาตจากฉันได้อย่างไร'
หลังจากสักพักหนึ่งฉินหยู ได้มาถึงที่สวนทางทิศตะวันตกของบ้านสายหมอก
เขายืนเท้าสะเอวแล้วก็ชี้ด้วยมือข้างขวาของเขาจ่อไปที่ 2 คนที่อยู่ในบ่อน้ำพุร้อน
ราวกับว่าเขาเป็นไม่พอใจ เขาพูดว่า 'เฮ เจ้ากล้าดียังไง ฉันคือเจ้าของที่นี้ เจ้ากล้า
เข้าไปแช่น้ำพุร้อนโดยได้รับอนุญาตจากฉันได้ยังไง ? อ้าา..'เพียงเท่านั้นฉินหยู
ส่งเสียงดังก่อนที่จะมีมือมาดึงเขา เขาเสียการทรงตัวและตรงลงไปยังบ่อน้ำพุร้อน
'เฮ ฉันยังไม่ได้ถอดเสื้อผ้าของฉันเลยนะ' ฉินหยูร้อง ร่างกายของเขาตกลงไปใน
บ่อน้ำพุร้อนกับเสียงสาดน้ำดัง อินทรีดำซึ่งกำลังยืนอยู่บนไหล่ของฉินหยูต้อง
กระพือปีกบินอย่างรีบร้อน โชคดีที่มันไม่ตกลงไปในบ่อน้ำพุร้อน ไม่เช่นนั้น
นั้นอินทรีย์อันยิ่งใหญ่จะได้กลายเป็นไก่เปียกน้ำ
' ฮ่า ฮ่า เสี่ยวหยู เจ้าท้าทายพี่ของเจ้าเหรอ เจ้ามาไกลเกินไปเเล้ว ขณะที่พี่น้องเจ้าทำงาน
ทำวันเเต่เจ้ากับเเช่อยู่ในน้ำพุร้อนเเละมันยังเป็นน้ำพุร้อนบ้านสายหมอก มันจะไม่มากไปหน่อยหรอ'
เด็กหนุ่มกล่าวอย่างไม่พอใจ แต่มีแววของความสนุกลึกลงไปในดวงตาของเขา
'ปุฟฟ..!'
ฉินหยูพ่นน้ำออกมา ทั้งร่างกายของเขาเปียกโชก เขามองด้วยความโกรธที่เด็ก
หนุ่มก่อนหน้าเขา
'พี่รอง เป็นท่านจริงๆสินะ ข้ารู้เเล้วว่ามันเป็นท่าน มีเเต่ท่าเท่านั้นเเหละที่จะดึง
ข้าลงไปในน้ำ พี่ใหญ่ไม่ทางทำอย่างนั้นเเน่' ฉินหยู ถอดชุดอย่างรวดเร็วเเล้ว
กระโดดลงไปในบ่อน้ำพุร้อนสวมเพียงกางเกงขาสั้นและจ้องพี่ชายคนที่สอง
ฉินเซงตาเขมง
ฉินเซง ยังหนุ่มน้อยอายุเเค่ 12 ปี เขาน่ารักเเละมีรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาตลอดเวลา
เขามักจะทำไห้ผู้คนที่เขาจัดการความรู้สึกเหมือนพวกเขากำลังเเช่น้ำในสายลมฤดูใบไม้ผลิ
เมื่อเขาอยู่กับพี่น้องเท่านั้นฉินเซงจึงจะเล่นบ้าๆเป็นเด็ก
'เจ้าบอกพี่ใหญ่? ฮ่า ฮ่า เขาผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็วแล้ว ' ฉินเซงหัวเราะกล่าว
'ฉินเซงเจ้าคิดว่าพี่ใหญ่ของเจ้าเป็นเหมือนหมูรึไง? ข้าจะหลับเร็วอย่างนั้นได้ยังไง'
เขากล่าวอย่างเยือกเย็น ชายหนุ่มที่เมื่อกี้ยังนอนหลับตาอยู่อีกข้างของบ่อน้ำพุร้อน
หลังจากเขาลืมตาขึ้นเเล้วกล่าวกับฉินเซง เขาหันไปหาฉินหยูด้วยรอยยิ้มเเล้วพูดว่า
'เสี่ยวหยู น้ำพุร้อนบ้านสายหมอกเนี้ย มันมีประสิทธิภาพมากปกติจริงๆ ครั้งสุดท้าย
ที่ฉันเเช่มันอาการบาดเจ็บของข้ายังดีขึ้นเยอะ เเทบจะไม่เห็นรอยเเล้ว ถ้าฉันเเช่
มากกว่าวันหนึ่ง บางทีร่างกายฉันอาจจะเหมือนนายก็ได้'
นี้คือพี่ใหญ่ของฉินหยู ฉินเฟงที่อายุ 16 ปีเเล้วเนื่องจากการฝึกศิลปะการต่อสู้
เขามองว่าถ้าเขาอายุ 18 หรือ 19 ปี พี่ใหญ่ฉินเฟงคือคนที่เขาเคารพมากที่สุด
ครั้งสุดท้ายที่พวกเขาได้พบกัน เขาเห็นด้วยตาตนเองว่าพี่ใหญ่ระเบิดต้นไม้เท่า
ขาผู้ใหญ่เเตกเป็นชิ้นเล็กๆด้วยหมัดของเขา เขาน้าอิจฉามากในพลังการต่อสู้ของเขา
ได้ยินพี่ใหญ่พูดผลของน้ำพุร้อน ฉินหยูยืนขึ้นด้วยท่าทางที่ซุกซนมากเขายืดหน้าอกเล็กๆ
ยกหัวของเขาเเล้วพูดว่า 'เเน่นอนอยู่เเล้ว บ่อน้ำพุร้อนบ้านสายหมอกมีประสิทธิภาพที่
ไม่ธรรมดา ฮืมม ท่านไม่เห็นหรอไดรเป็นเจ้าของบ้านสายหมอก มันไม่มีใครอื่นนอก
จากน้องเล็กของท่าน'
'เจ้าเปี๊ยกนี้!'
ทั้งฉินเฟงและฉินเซงระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
ในฐานะที่ฉินหยูไม่ได้เห็นพี่ใหญ่และพี่รองของเขาเป็นเวลานานพวกเขาสนุกกับการ
เที่ยวยุ่งรอบๆด้วยกัน เเต่ฉินเฟงเเละฉินเซงให้ฉินหยูได้เปรียบเล็กน้อยเพราะพวกเขาทั้งสอง
รักน้องชายคนเล็กของพวกเขา พวกเขาทั้งหมดขาดแม่จึงเป็นธรรมดาที่พวกเขาจะดูแลเพิ่มเติม
เกี่ยวกับน้องชายคนเล็กของพวกเขา
หลังจากเล่นกันจนหมดเเรง ฉินหยู ล้มตัวลงนอนอย่างสุขสบายเงียบ ๆในบ่อน้ำพุร้อน
ฉินเฟงและฉินเซงยังล้มตัวลงนอน
'ท่านยุ่งมากไหมท่านพี่? ท่านมีเวลามาเยี่ยมข้าบ้างไหม?' ฉินกยูถาม
'ท่านพ่อเขา....'เมื่อเห็นว่าเขาได้พูดบางอย่างผิดปกติ ฉินเฟงพูดขึ้นในทันที
'ไม่มีอะไรจริงๆ แค่เพียงว่าไม่มีธุรในกองทัพในขณะนี้ ดังนั้นฉันเลยมา ท่านพ่อยังได้อนุญาตเเล้ว
เเล้วฉันยังได้พบกับน้องสองเลยพาเขามาด้วย'
ฉินเซงพยักหน้าเเล้วพูดกับฉินหยูด้วยรอยยิ้ม 'นั้นถูกต้องเเล้ว เจ้าอาจไม่รู้ เพื่อหาเวลา
มาเยี่ยมเจ้ามันยากเเค่ไหน เเต่ถึงอย่างนั้นฉันก็มีเวลาแค่ครึ่งวัน หลังจากครึ่งวัน
ฉันต้องรีบกลับไป'
'ฉันด้วยเหมือนกันหลังจากครึ่งวัน ฉันต้องจากไปกับน้องสอง' ฉินเฟงกล่าวอย่างขอโทษ
'โอ้ เพียงเเค่ครึ่งวัน' การตอบสนองฉินหยู เห็นได้ชัดว่าเขาผิดหวังนิดหน่อย ความตื่นเต้น
ก่อนหน้านี้ของเขาหายไปโดยสิ้นเชิง
ฉินหยูมีญาติพี่น้อง 3 คน มีพ่อของเขาเเละพี่ชาย 2 คน ท่านพ่อยุ่งมากเขามาเยี่ยมข้า
ครั้งเดียวใน 2 ปีที่ผ่านมา มันคงยากมากสำหรับเขาที่จะมาพบพี่น้องของเขาครั้งนี้
เเต่หลังจากครึ่งวัน เขาก็ต้องอยู่คนเดียวอีกครั้ง หรืออาจจะมากกว่านั้น แน่นอน
ที่เขายังมีเสี่ยวเห้ย ซึ่งยืนอยู่ข้างบ่อน้ำพุร้อน
ฉินเฟงเเละฉินเซงมองหน้ากัน พวกเขาทั้งสองรู้สึกหมดหนทาง
ฉินหยูยิ้มเเล้วลุกขึ้น 'พี่ใหญ่ ท่านพ่อเดินทางไปในที่รกร้างอันยิ่งใหญ่ เขาสอน
ท่านเป็นจำนวนมากเกี่ยวกับศิลปะของสงครามใช่ไหม' เขาถามทันที 'ฉันรู้ว่าท่านพ่อเก่ง
การจัดการกองกำลัง ท่านปู่เหลียนบอกข้า ดังนั้น'
'ถูกตัอง ศิลปะเเห่งสงครามของพระบิดาเป็นสิ่งที่สุดยอดมาก เมื่อเขาและฉันได้ฝึกซ้อมรบหมากรุก
ฉันใช้เวลาครึ่งปีไปกับการฝึกเพื่อไห้ฉันพบความต้องการของฉัน'ฉินเฟงเหมือนจะจำได้ทุกวัน
เขาพูดโดยไม่รู้ตัว 'ศิลปะเเห่งสงครามของท่านพ่อเป็นสิ่งที่ดีมากอย่างแท้จริง'
'พี่ใหญ่!' ฉินเซง มองที่เขา ฉินเฟงหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เขาไม่สามารถช่วยรอยยิ้มอย่างขมขื่นข้างใน
เขารู้ว่าเขาไม่ระมัดระวังเกี่ยวกับสิ่งที่เขาพูด
ดูเหมือนฉินหยูจะไม่ได้ไส่ใจ ด้วยสีหน้ารู้สึกตื่นเต้นมากเขาเริ่มที่จะพูดคุยกับฉินเซงเเละ
ฉินเฟงเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเขาในวันนี้ 3 พี่น้องคุยกันในบ่อน้ำพุร้อนเป็นเวลานาน
หลังจากที่จบงานเลี้ยงอาหารค่ำ ฉินเฟงเเละฉินเซงก็จากไป
ด้านนอกของบ้านสายหมอก ฉินหยูไส่เสื้อคลุมผ้าชุดดำ มองดูพี่ชายทั้ง 2 จากไปพร้อมโปกมือ
'ลาก่อน พี่ใหญ่ พี่รอง' ตาของฉินหยูเปล่งประกายไม่หยุด
ฉินเฟงเเละฉินเซงหันหัวของพวกเขาไปรอบ ๆ และยิ้มให้ฉินหยูแล้วพวกเขาก็
กระโดดขึ้นไปบน 2 เสือคลั่ง มีทหารชั้นเยี่ยมอยู่ข้างหลังพวกเขาที่ยังขี่เสือคลั่ง
ในช่วงเวลาสั้น ๆพวกเขาก็ได้หายไปบนถนนบนเทือกเขาอย่างไร้ร่องรอย
******
ในสถานที่ถนนข้างล้างภูเขา ฉินเฟงเเละฉินเซง กำลังขี่เสือคลั่งอยู่ข้างๆกัน
'พี่ใหญ่ ครั้งนี้ท่านประมาทไปนะเกี่ยวกับคำพูดของท่าน เสี่ยวหยูเขาไม่ชอบถูกกำหนด
ในกรอบหรือเเบบเเผนเท่าไหร่ นอกจากนี้เนื่องจากปัญหาตันเถียนของเขา
เขาไม่สามารถฝึกที่จะกลายเป็นผู้บัญชาการทหารได้ ดังนั้นเขาไม่สามารถทำอะไรได้ดี
ทั้งในการทหารและศิลปะวรรณกรรม พลังของท่านพ่อถูกใช้ไปกับเราสองคน
ในขณะที่เสี่ยวหยูไม่ได้เห็นเขาในตลอดทั้งปี เขามีเเค่ตัวเอง ท่านบอกท่านพ่อเเละ
ท่านได้ดำเนินการฝึกซ้อมรบหมากรุกดินเเดนตลอดปีครึ่ง ท่านคิดว่าเขาจะรู้สึกยังไง?'
ฉินเซงพูดกับฉินเฟง เห็นได้ชัดว่าเขาเคืองมาก
ฉินเฟงพูดอย่างผืนยิ้ม 'น้องสอง ตอนฉันไม่ได้คำนึงถึงเเต่หลังจากนั้นฉันก็รู้สึกเสียใจที่พูดเช่นกัน'
ทันใดนั้นฉินเฟงก็ทำหน้าจริงจัง เขาพูด 'น้องสอง เนื่องจากตันเถียนมีปัญหาตั้งเเต่เกิด
ทำให้เสี่ยวหยูไปได้ไม่ดีในศิลปะการต่อสู้และวรรณกรรม เขาจะไม่มีพลังพอที่จะปกป้องตัวเอง
เราสองคนจะต้องปกป้องเขาให้ดีเราต้องไม่ยอมให้ใครมารังแกเขา'
'ถ้าใครกล้าที่จะรังแกเสี่ยวหยู ฉันจะทำให้พวกมันเสียใจที่ได้เกิดมา 'ฉินเซงพูด
มีเเววของความโหดร้ายในสายตาของเขา
ในระยะสั้นๆที่ 2 พี่น้องและบอดี้การ์ดที่อยู่เบื้องหลังพวกเขาได้ทิ้งภูเขาดงหลาน
เเละรีบกลับเมืองยาน
*****
ตอนดึกบนภูเขาดงหลาน ร่างเล็กกำลังนั่งอยู่ยอดภูเขาในสายลมเย็น นกอินทรีหนุ่ม
สีดำยืนอยู่อย่างเงียบ ๆ บนไหล่ของเขา ฉินหยูมองดูดวงดาวทางนี้ เเต่มีบางอย่างใน
ตาของเขาที่เป็นผู้ใหญ่มากกว่าเด็กคนอื่น ๆ ในวัยเดียวกัน
ทุกวันที่เขาอ่านหนังสือในการเรียนคนเดียวหรือคิดใคร่ครวญอยู่คนเดียว นี้มันทำ
ให้ฉินหยูจิตใจไปไกลกว่าเด็กอายุ 8 ปี
'เสี่ยวเห้ย 'จู่ๆฉินหยูก็เอ่ยขึ้น แต่สายตาของเขายังคงมองขึ้นไปที่ดาวบนท้องฟ้า
อีนทรีดำเริ่มเคลิ่อนไหวเล็กน้อยตาดำของมันมองไปรอบๆสองสามครั้ง เเต่
มันก็ไม่เข้าใจว่าเจ้าของเรียกมันทำไม
จู่ๆฉินหยูก็มีรอยยิ้มจางๆ บนใบหน้าของเขาเป็นรอยยิ้มที่มีความสุขประกาย
'เสี่ยวเห้ย เจ้ารู้ไหมตอนที่ข้ายังเล็กมาก ท่านพ่อมักจะอยู่กับฉันและห่วงเกี่ยวกับ
ฉันเป็นอย่างมาก หลังจากที่บรรดาทั้งครู 12 มาเขาให้ฉันทำตามครูเหล่านั้นเพื่อการศึกษา
ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ชอบมันเเต่ฉันพยายามอย่างหนักที่จะบังคับตัวเองให้เรียนกับ
พวกเขาเพื่อให้ท่านพ่อมีความสุข ฉันได้เรียนรู้ตัวอักษรเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว
เเม้เเต่ท่านพ่อยังเรียกฉันว่าอัจฉริยะ แต่หลังจากนั้น ...'
เขาหยุดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเริ่มพูดต่อ
'ฉันจำได้อย่างชัดเจนเมื่อฉันอายุ 6 ปีในลานที่เงียบสงบของคฤหาสน์ของท่านพ่อ
ครู 12 คนนั้นพูดอะไรบางอย่างเหมือนฉันไม่เหมาะสมที่จะกลายเป็นผู้ปกครอง
จากนั้นลุงเฟงกล่าวว่า ตันเถียน ของฉันคือปัญหาและไม่สามารถสะสมพลังภายใน
ทำให้มันเป็นไปไม่ได้สำหรับฉันที่จะเดีนตามทางศิลปะการต่อสู้ หลังจากนั้นฉันมา
บ้านสายหมอก จากนั้นท่านพ่อก็ไม่ให้ความสนใจกับการดูแลหรือเกี่ยวกับฉัน
ในเวลานั้นฉันไม่รู้ว่าตันเถียนคืออะไร เเละไม่รู้ว่าการปกครองคืออะไร ดังนั้น
ฉันคิดว่าท่านพ่อให้ฉันมาที่นี่เพื่อเล่นจริงๆ แต่…'
ฉินหยู ลดหัวของเขาและกัดริมฝีปากของเขา ดวงตาของเขาดูหดหู่มาก 'ใน 2 ปีนี้
ฉันยังถามคนเหมือนลุงหวังเกี่ยวกับความหมายของตันเถียนเเละการปกครอง
ฉันคิดว่าฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมท่านพ่อไม่ให้ความสนใจฉัน'
ฉินหยู หยุดอีกครั้งและเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว
'ฉันไม่ชอบหนังสือเหล่านั้นในการวางแผนและกำหนดเเนงทาง ความจริงแล้ว
ฉันบังคับตัวเองให้ศึกษามัน จริงๆเเล้วฉัน ต้องการที่จะเห็นรอยยิ้มของท่านพ่อ
และได้รับการยอมรับและยกย่องฉัน แต่หนังสือวางแผน หนังสือที่โหดร้ายเหล่านั้น ...ฉัน
ฉันบังคับตัวเองและปราบปรามความไม่ชอบของฉันที่จะอ่านมัน ฉันรู้ทุกอย่าง
เกี่ยวกับรูปแบบเหล่านั้น แต่ฉันไม่สามารถนำตัวเองที่จะทำตามมัน ฉันไม่สามารถ
ที่จะทำตามพวกมัน ท่านพ่อ... ฉันทำไม่ได้จริงๆ'
ฉินหยู ร้องไห้อย่างขมขื่นในเสียงต่ำ ร่างกายของเขาบางอ่อนแอและสั่นไหว
เสี่ยวเห้ยยืนอยู่บนด้านหนึ่งของเขามองไปรอบ ๆ และทำความสะอาดใบหน้า
ของฉินหยูด้วยปีกน้อย ๆ
ฉินหยู ชะโงกหัวของเขาและมองที่นกอินทรีหนุ่มบนไหล่ของเขา จากนั้นเขา
ก็โอบกอดมันแน่นกับอกของเขา นกอินทรียังคงนิ่งเงียบในอกของฉินหยูเหมือน
ถ้ามันรู้อารมณ์เจ้านายมันในตอนนี้ 'เสี่ยวเห้ย ฉันอยากจะได้ยินเสียงยกย่อง
จากพ่อของฉัน อยากจะเห็นรอยยิ้มที่มีความสุขของเขา อยากจะ ... 'ฉินหยูพึมพำ
ในเสียงต่ำมากขึ้น
*****
ในสถานที่ลับในด้านบนของภูเขา ที่ 3 ผู้เชี่ยวชาญที่แอบปกป้องฉินหยู
ถอนหายใจอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ทันใดนั้น ดาวตกตัดผ่านดาวบนท้องฟ้าแผ่รังสีของแสงฉูดฉาด สำหรับช่วงเวลา
ในท้องฟ้า ดาวตกสีสันที่สดใสเกินกว่าดาวอื่น ๆ
'ดาวตก!'
ตาฉินยูจู่ ๆ ก็ส่องแสง ทันทีที่เขาปล่อยเสี่ยวเห้ย จากอกของเขา เขายืนขึ้นปิดตา
ของเขาแน่น ประกบมือของเขาด้วยกันก่อนที่เขา 'ฉันขอให้ท่านพ่อสนใจฉัน
เช่นเดียวกับวิธีที่เขาปฏิบัติต่อพี่ใหญ่และพี่รองฉันไม่กลัวว่าเขาจะตบหรือตีสอนฉัน
ฉันเพียงต้องการให้เขาไม่ได้ที่จะไม่สนใจฉัน'
ฉินหยูเปิดตาขึ้นช้าๆเเละมองที่ดาวตกซึ่งได้มาถึงที่ขอบฟ้า
'ท่านพ่อเคยพูดว่าเวลาที่เราขอพรก่อนดาวตกจะทำให้มันเป็นจริงขึ้นมา
เขาไม่ได้หลอกฉัน แน่นอนมันจะเป็นจริงขึ้นมา มองเข้าไปในท้องฟ้า
เต็มไปด้วยดวงดาวใบหน้าหน่อมแน้มฉินหยูมีสีหน้าเด็ดเดี่ยว'
ทันใดนั้นมีความคิดที่ยอดเยี่ยมกระโดดเด้งอยู่ใจฉินหยู
ดวงตาของเขาสว่างใส เขาลูบหัวของเขา 'อ้าา ฉันนี้โง่จริงๆ การต่อสู้และศิลปะวรรณกรรม
ศิลปะการต่อสู้และวรรณกรรม ฉันไม่สามารถทำได้ดีในวรรณกรรม
แต่ไม่ ฉันจะประสบความสำเร็จในศิลปะการต่อสู้อย่างใดอย่างหนึ่ง?
ลุงหวังพูดว่ามีเทคนิคการบ่มเพราะพลังภายในจำนวนมากในโลก บางทีบางส่วนของ
พวกนั้นอาจมีความเหมาะสมสำหรับตันเถียนของฉันก็ได้ แม้ว่าไม่มีใคร
ที่บอกว่าเทคนิคการบ่มเพราะพลังภายในจะขาดไม่ได้ในศิลปะการต่อสู้?'
เเต่ถึงยังไงฉินหยูก็เป็นเเค่เด็กอายุ 8 ปี แม้ว่าความคิดของเขาเป็นผู้ใหญ่มาก
ขอบคุณมากกับการอ่านหนังสือหลายเล่มทั้งหมดด้วยตัวเอง เเต่เขายังเป็นเด็ก
เพราะในอดีตเฟงยูสิกล่าวว่า ตันเถียนมีปัญหาไม่สามารถเดินตามทางศิลปะการต่อสู้
คงเป็นความคิดที่ผุดขึ้นมาในใจฉินหยู ในขณะนี้เขายังไม่ตื่นเท่านั้น
คือจริงๆมันเป็นไปไม่ได้สำหรับคนที่มีตันเถียนที่แปลกที่จะเดินตามทางศิลปะการต่อสู้?
'ยังไงก็ตาม ด้วยความตั้งใจเเล้ว ขนาดเเท่งเหล็กยังกลายเป็นเข็มได้เลย
หลักการนี้ถูกกล่าวว่าโดยท่านพ่อ ตราบเท่าที่ฉันพยายามอย่างหนักฉัน
ก็จะประสบความสำเร็จ 'ฉินหยูพูดกับตัวเองในขณะพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำอีก
ดวงตาของเขาจะเต็มไปด้วยความเชื่อมั่นเช่นเดียวกับความมุ่งมั่นที่เหนือชั้น
'เสี่ยวเห็ย ไปกันเถอะ กลับบ้าน!' ฉินหยูไม่เพียงแค่สิ่งที่เขาพูด เพราะตอนนี้เขามี
เป้าหมาย ทุกอย่างจะต้องเปลี่ยนไป
นกอินทรีดำบนไหล่ฉินหยูยังดูเหมือนว่าจะมีความสุขมากเเละกระพือปีกไปมา
ฉินหยู จะกระโดดข้ามไปยังบ้านสายหมอก เงาสีดำ 3 ร่างปรากฏขึ้นในเวลาสั้นๆ
และวิ่งไล่ตามฉินหยูไปเหมือนควันดำ 3 ก้อน
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น