วันศุกร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ST Book 1 Chapter 1

B1C1: ฉินหยู

มันเป็นวันในฤดูหนาว หลังจากหิมะตกหนัก ทั้งที่เมืองยานดูเหมือนว่าจะถูกปกคลุมด้วยเสื้อสีเงินมันเป็นเมืองขนาดใหญ่เมืองยาน

สามารถรองรับได้หลายล้านคนและอื่น ๆ คฤหาสน์ของคนที่อยู่ในความดูแลของ 3 การปกครองประกอบด้วย
พื้นที่ตะวันออก - 'เจ้าชายเเวนฉีชิงตะวันออก' ฉินดี - ตั้งอยู่ในเมือง

คฤหาสน์เจ้าชายเเวนฉีชิงตะวันออก ตรงพื้นที่ขนาดใหญ่กับประตูทางเข้าหลักของมันให้เปิดตลอดเวลา

ทางเข้าหลักยังมีขนาดใหญ่มากพอสำหรับ 6 หรือ 7 คนที่จะเข้าได้ในเวลาเดียวกัน

นอกจากนี้ยังมีชายแข็งแรงสองคนเปลือยอกที่สูงประมาณ 2 เมตรและดูราวกับว่าพวกเขาจะแกะสลักจากหิน

กำลังยืนอยู่ด้านซ้ายและขวาของทางเข้าด้วยดวงตาที่เย็นชากำลังชำเลืองมองฝูงชนที่เดินผ่าน แต่ละคนจะแบก
มีดต่อสู้สีแดงเลือดขนาดใหญ่บนกล้ามเนื้อเหมือนหลังเสือ ตั้งแต่แรกเห็นมีดที่มีความยาวอย่างน้อย 1.5 เมตร

มันเป็นวันที่ฤดูหนาว พื้นดินปกคลุมโดยเกล็ดหิมะ อุณหภูมิต่ำจนน้าใจหายแม้กระทั่งแม่น้ำยังแข็ง แต่ยังมีชาย 2 คนที่เปลือยอก


อย่างไรก็ตามนี้ไม่ได้เป็นสิ่งที่น่าตกใจที่สุด อะไรคือสิ่งที่สิ่งที่น่าตกใจที่สุดคือเสือที่ดูดุร้ายยืนอยู่ข้างพวกเขา


เสือเป็นสีแดงเหมือนเปลวไฟตั้งแต่หัวจรดเท้าและยาวประมาณ 2 เมตรทุกครั้งที่พวกมันฟาดหางเหมือนเเซ่เหล็ก

พวกมันทำให้อากาศเกิดสั่น สายตาของพวกเขาแผ่รังสีเย็นของแสง เสือเหล่านี้จะถูกเรียกว่า 'เสือคลั่ง'

ทันใดนั้นชาย 2 คนเดินออกมาจากคฤหาสน์เจ้าชายเเวนฉีชิงตะวันออก พวกเขายังเปลือยอกและยังนำเสือคลั่งแต่ละตัวมา

พวกเขาได้มาเปลี่ยนกะกับอีกสองคน

ด้านนอกของคฤหาสน์ทุกคนเจตนาหลีกเลี่ยงมันไม่ว่าจะเป็นสมาชิกของครอบครัวที่มีอำนาจ ขุนนางหรือสามัญชนในเมืองยาน


ในลานที่เงียบสงบในคฤหาสน์เจ้าชายเเวนฉีชิงตะวันออก เป็นชายวัยกลางคนสวมชุดสีเขียวนั่งอยู่บนม้านั่งหิน

 เด็กผู้ชายที่น่ารักนั่งอยู่บนขาของเขา มีคน12 คนกำลังยืนอยู่ด้านหน้าของเขา 12 คนเหล่านี้เป็นชายชราหรือหญิงสาวหรือชายหนุ่ม
แต่พวกเขามีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันพวกเขาจะแต่งตัวในชุดสีม่วงทั้งหมด

'ท่านพ่อ ท่านเรียกอาจารย์มากมายมาทำไม?'ฉินหยูถาม  ฉินหยู อายุ 6 ปีและนั่งอยู่บนต้นขาของพ่อของเขาอย่างเกียจคร้าน

ปั้นก้อนหิมะในมือของเขาเขามองไปที่พ่อของเขาฉิน ดี ด้วยสายตาสงสัย

ฉินดี ลูบหัวฉิน หยูด้วยความรักจากนั้นก็เงยหน้าขึ้นและหันไปทางคน 12 คน ทันใดนั้นเขาก็พูดว่า 'พวกเจ้าได้สอนหยูเอ๋อ

บางเวลา เอาเถอะ ไม่ต้องลังเล ให้ข้ารู้ว่าพวกเจ้ามีความคิดเห็นใด

12 คนมองหน้ากัน แล้วคนเคราขาวก้าวไปข้างหน้า 'ฝ่าบาท' จากที่สังเกตองค์ชายสามจากทุกด้านเราจะเห็นว่า

องค์ชายสามมีความสนใจในทักษะที่ไม่ตรงตามประเพณีบ้าง และไม่สนใจเส้นทางการปกครอง
ตามความคิดเห็นของพวกเราเป็นไปไม่ได้สำหรับองค์ชายสามที่จะกลายเป็นผู้ปกครองที่สมบูรณ์แบบ.

มันดูเหมือนว่าทัศนะคติของพวกเขาทำให้การยืนยันดังกล่าวหลังจากที่อยู่กับเด็กชายมาหลายวันนั้น

ฉินดี ไม่มีข้อสงสัยอย่างไรใด

เขาให้ถอนหายใจมองไปที่ฉิน หยู และพูดด้วยรอยยิ้ม'ฉันเห็น หยูเอ๋อ เป็นเหมือนแม่ของเขาเขาไม่มีความสนใจในอำนาจทางโลก

แต่ในแง่การฝึกศิลปะการต่อสู้เขาคือ ...'

พูดถึงตรงนี้ฉิน ดี หยุด จากนั้นเขาก็โบกมือและพูดว่า'ช่วงนี้พวกเจ้าอาจจะมีปัญหายุ่งยากสักพักหนึ่ง ตอนนี้พวกเจ้าออกไปได้เเล้ว'


'ฝ่าบาท พวกเราทูลลา'


12 คนคำนับพร้อมเพรียงแล้วจากไป ทิ้งลานเล็ก ๆ ให้กลับมาเงียบสงบ


ตอนนี้มีเพียงฉิน ดีและลูกชายของเขาฉิน หยูในลาน ฉิน ดี ยังคงนิ่งเงียบ ครู่หนึ่งหลังจากนั้น

เขามองไปที่ฉิน หยู ด้วยดวงตาที่มีความหมาย อย่างไรก็ตาม ฉิน หยู อายุเพียง 6 ปี  ยังไม่สามารถเข้าใจความหมายนี้

'เกิดอะไรกับท่านพ่อ? ทำไมท่านไม่พูด?'เขาสงสัย แต่เขาเป็นคนที่ฉลาดมากดังนั้นเขาจึงไม่รบกวนพ่อของเขา

โดยไม่มีเเม่ตั้งเเต่เด็ก ในใจของเขาพ่อเป็นคนที่สำคัญที่สุดนอกจากพี่ชายทั้ง 2 คนของเขา

หลังจากนั้นครู่หนึ่งฉิน ดี ยังคงนั่งอยู่ ฉิน หยูได้นั่งเงียบอยู่บนต้นขาของพ่อของเขามาตลอด


ทันใดนั้นเสียงร้องของนกกระเรียนดังขึ้น


นกกระเรียนซีอานสีขาวบินไปทางพวกเขา บนนกกระเรียนซีอาน เป็นชายวัยกลางคนนั่งอยู่

ที่มีความสง่างาม รูปหล่อ ท่าทางสูงส่ง นกกระเรียนซีอานใช้เวลาเพียงสั้น ๆ ในขณะที่มาถึงลานภายใน

ทันทีที่เขาเห็นชายวัยกลางคน ฉิน ดี ลุกขึ้นยืนเเละถามอย่างรีบร้อน 'พี่น้องเฟง มีบางอย่างผิดปกติเกี่ยวกับตันเถียน

ของ หยูเอ๋อรีเปล่า ฉันสงสัยว่าคุณจะคิดว่า ...'

เห็นฉินดี เป็นเเบบนั้น เเน่นอน เฟงยูสิ รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนของเขา เขาถอนหายใจและกล่าวว่า

'อย่างที่ข้าพูดไปก่อนหน้านี้ ไม่มีความหวังในการฝึกศิลปะการต่อสู้ของหยูเอ๋อ ฝ่าบาท นี้มันเเปลกมาก
ตันเถียนของเขาไม่สามารถสะสมพลังภายในได้ดังนั้นแน่นอนว่าเขาไม่สามารถฝึกศิลปะการต่อสู้ได้ ตันเถียนนี้
เป็นมาตั้งเเต่เกิด เเม้กระทั่งโอกาสล้านในล้านคนยังไม่มี ดังนั้นข้าจึงไม่รู้วิธีเเก้ไขมัน

ได้ยินเช่นนี้ ฉินดี ค่อย ๆนั่งลงและครุ่นคิดเป็นเวลานาน


'ท่านพ่อ อะไรคือพลังภายใน ทำไมตันเถียนของลูกถึงไม่สามารถสะสมพลังภายใน

สักครู่นี้ครูเหล่านั้นยังได้พูดคุยเกี่ยวกับการปกครองหรือบางสิ่งบางอย่าง พวกเขาหมายถึงอะไร'
ฉิน หยู อายุ 6 ปีดวงตาเบิกกว้างถามอย่างสงสัย

เขาจำได้อย่างเชัดเจนว่าคือสิ่งที่ถูกกล่าวเมื่อไม่นานมานี้


ฉินดี ยิ้มอย่างขมขื่นภายใน แต่เขาก็ยังบรรเทาฉินหยู 'หยูเอ๋อไม่ต้องถามมากเกินไป

เจ้าไม่ชอบการเรียนนี่และต้องการที่จะไปบ้านสายหมอกใช่ไหม

ตาฉินหยู ส่องแสงด้วยความตื่นเต้นทันที มองเช่นดาวสว่างในท้องฟ้ายามค่ำคืน เขาพูดว่า

 'อ่าา  ดังนั้นฉันจะได้ไม่ต้องเรียนหนังสือที่น่าเบื่ออีกต่อไป บ้านสายหมอกฉันรักน้ำพุร้อนรักมองขึ้นไปที่ดวงดาว
และรักดูดวงอาทิตย์ขึ้น.

ฉินดี ยิ้ม 'เอาล่ะ หยูเอ๋อหากลูกต้องการพ่อจะให้บ้านสายหมอก ยังมีทหารชั้นเยี่ยม 1000 นาย ที่เจ้าจะเป็น

ผู้บังคับบัญชา ถ้าเจ้าต้องการบางสิ่งบางอย่างเพียงแค่บอกพ่อของเจ้าโดยตรง'

'อ่าา ฮาา นี้มันเจ๋งจริงๆ ว้าว บ้านสายหมอกเป็นของเราเเล้วตอนนี้ ฉันจะสามารถแช่ในบ่อน้ำพุร้อนทุกวัน

มันจะรู้สึกดีมาก 'ฉินหยูกล่าว แก้มของเขาเป็นสีแดงด้วยความตื่นเต้น

รอยยิ้มบนใบหน้าของฉินดี คือการฝืนโดยสิ้นเชิง แต่ฉินหยูยังคงไม่เห็นอะไรผิดปกติ


'มันดีที่เจ้าชอบมัน หยูเอ๋อ เจ้าควรไปนอนก่อน เมื่อใดก็ตามที่เจ้าต้องการที่จะไปบ้านสายหมอก เจ้าจะต้องบอก

ปู่ เหลียน'ฉินดี ยิ้มขณะที่แตะหัวฉินหยู

'ลาท่านพ่อ ลาลุงเฟง 'ฉินหยู โปกมือของเขาแล้วไปที่ห้องของเขา


ฉินดี ยิ้มเเละมอง ฉินหยูเข้าไปในห้อง เเล้วใบหน้าของเขาก็เเข็งตัว

 ด้วยการสั่นไหวของร่างกายของเขาดูเหมือนว่าเขาจะกลายเป็นควันสีเขียวและหายไปจากลาน
เฟงยูสิ ก็ยังหายไปหลังจากเขาเป็นเหมือนใยฝ้ายที่ลอยอย่างงดงาม

******


ในห้องลับของคฤหาสน์ของเจ้าชายมี 3 คนในขณะนี้ ฉินดี,เฟงยูสิ

ละนักวิชาการที่อยู่ในชุดสีดำและถือพัดด้ามจิ้ว

'ฝ่าบาท ท่านได้ตัดสินใจเเล้วจริงๆหรือ' นักวิชาการสีดำสวมใส่มีลักษณะที่ฉินและถามเขาสงสัย


ฉินดี พยักหน้า 'ตั้งแต่ หยูเอ๋อ ไม่สามารถกลายเป็นผู้นำหรือเป็นผู้เชี่ยวชาญของระดับ เซียนเถียน

มันจะดีกว่าถ้าเขาไม่ได้มีส่วนร่วมในเรื่องนี้ ที่ตันเถียนของเขาเเปลก อนิจจา บางทีมันเป็นสิ่งเดียว
ที่ฉันสามารถไห้เขาได้คือ 10 ปี ของความสุขและความสงบเมื่อเวลามาถึง
สำหรับเราที่จะนำแผนของฉันไปสู่การปฏิบัติ หยูเอ๋อจะไม่สามารถมีกระทั้งวันที่เงียบสงบ

เฟงยูสิ คิดสักพักหนึ่งเเล้วจึงตัดสินใจที่จะพูดออกมา


'ฝ่าบาท,ต้องใช้เเผนนี้จริงๆหรอ ท่านควรจะรู้ผลที่ตามมาทีท่านต้องแบกรับ,ท่านไม่ควร'เฟงยูสิ ถามอีกครั้ง


หนัาของฉินดีเเข็งตัวทันที ดวงตาของเขามีประกายเเสงที่เย็นชา เขาพูดว่า'มันไม่สำคัญหรอก

ถ้าเพื่อบรรพบุรุษตระกูลฉิน หรือ จิงยี่ แผนนี้จะต้องดำเนินการ จิงยี่ทิ้งลูกชายไว้ให้ฉัน 3คน
เเม้ว่าจะมีสิ่งผิดปกติกับหยูเอ๋อตันเถียน เเต่เฟงเอ๋อเเละเชงเอ๋อมีดีที่การศิลปะการต่อสู้และวรรณกรรม
ตามลำดับพอที่จะทำให้เรื่องสำคัญนี้สำเร็จ เสี่ยวหยวนได้เริ่มเดินก่อน 'หมากรุกเงา' ได้เริ่มขึ้น?

นักวิชาการชุดดำเสี่ยวหยวนโบกพัดสองสามครั้งเเล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม'ไม่ต้องกังวลฝ่าบาทข้ามีทุกอย่างในมือเรียบร้อยเเล้ว'


'ดี ดีมาก' ตาของฉินดีเปร่งรังสีสังหารออกมา


******


สถานที่ที่คฤหาสน์เจ้าชายเเวนฉีชิงตะวันออกที่ฉินดีอาศัยอยู่เรียกว่า ทวีปเฉียนหลงที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่

จนถึงวันนี้ยังไม่มีใครที่จะสามารถวัดมันได้

นี่คือสาเหตุส่วนใหญ่จะมีความจริงที่ว่าส่วนทางทิศตะวันออกของทวีป เฉียนหลงถูกครอบครองโดยถิ่น

ทุรกันดารอันยิ่งใหญ่ ถิ่นทุรกันดารมีเทือกเขาสูงจำนวนมากและถูกปกคลุมด้วยป่าทึบ นอกจากนี้ยังมีสัตว์ปีศาจนับไม่ถ้วน
ลึกไปในถิ่นทุรกันดารอันตรายมากขึ้นสัตว์ที่เขาจะได้พบ ไม่เเม้เเต่คนที่มีพลังหรือชื่อเสียง สถานที่นั้นเรียกขานว่า 'ชางเซียน'
ในทวีปเฉียนหลงสามารถที่จะสำรวจในถิ่นทุรกันดารอันยิ่งใหญ่นี้ได้อย่างเต็มที่

ทางด้านทิศตะวันตกของถิ่นทุรกันดารอันยิ่งใหญ่  มี 3 อาณาจักรใหญ่ปกครองได้แก่ ราชวงศ์ชู ราชวงศ์หมิง และราชวงศ์ฮั่น


ประชากรของ 3 อาณาจักร ประมาณ 10 พันล้านคน ใน 3 ราชวงศ์ ราชวงศ์ชูมีพลังมากที่สุด

แต่มีตระกูลที่พิเศษมากในอาณาจักรคือตระกูลฉิน

ตระกูลฉินครอง 3 เขต ประกอบด้วย ภาคตะวันออกของอาณาจักรชู12 มณฑล

มันเป็นมรดกที่ตกทอดมาหลายร้อยปี ฐานรากของมันใน 3 ภูมิภาคตะวันออก
เเม้แต่จักรพรรดิชูยังพบว่ามันยากมากที่จะจัดการกับตระกูลฉินยิ่งไปกว่านั้นตระกูลฉิน
ยังมีกองกำลังที่ไม่เหมือนใครเรียกว่ากองกำลังเสือคลั้ง

เสือคลั่งสีแดงเข้มตั้งแต่หัวจรดเท้าและมีร่างกายที่ค่อนข้างใหญ่เป็นประเภทเฉพาะของเสือ

 วิธีการในการปรับปรุงพันธุ์ให้มีขนาดที่ใหญ่เป็นความลับที่สำคัญที่สุดของตระกูลฉิน

ตระกูล
ฉินมีกองทัพ 600,000 คน เป็น 50,000 คนอยู่ในกองกำลังเสือคลั้ง
ทหารทุกคนขี่เสือคลั้ง มีการโจมตีที่แข็งแกร่งอย่างน่าอัศจรรย์ ควบคู่ไป
กับการทหารทหารม้า ยื่งเป็นเรื่องยากเข้าไปอีกที่จะเอาชนะเสือ


เสียงคำรามของเสือคลั้ง 50,000 ตัวเพียงอย่างเดียวสามารถก่อให้เกิดความเสียหายจำนวนมาก

ให้กับกำลังใจของศัตรู ทหารเสือคลั่ง 50,000 คน สามารถทำลายกองทัพทหารม้าขนาดใหญ่กว่า
 100,000 คนได้อย่างง่ายดาย

พลังของศิลปะการต่อสู้มีความสำคัญยิ่งในทวีปเฉียนหลงแต่ละแห่งใน 3 อาณาจักรใหญ่ต้อง

มีอย่างน้อยหนึ่ง ซูเซียน ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ปกป้องอาณาจักรในสายตาของคนทั่วไป ซูเซียน เป็นดั่งพระเจ้า
เมื่อดาบของพวกเขาถูกชักออกพวกเขาสามารถตัดหัวคนจากหลายร้อยหรือหลายพันในทางทีมันผ่าน
โดยใช้ดาบของพวกเขาพวกเขาสามารถบินขึ้นไปในระดับที่เก้าของท้องฟ้า มันเป็นการอวดว่าไม่ใช่เเค่
สิ่งมีชีวิตที่เป็นอมตะที่จะสามารถทำได้ ?

******


บ้านสายหมอกสร้างบนภูเขา ดงหลาน ภูเขาสูง 3000 เมตรดังนั้นจึงเรียกได้ว่าเป็นภูเขาที่สูงเเห่งหนึ่งเลยทีเดียว


2 ปี ผ่านไป


ฉินหยูตอนนี้อายุ 8 ปี เขาได้เติบโตเเละขึ้นสูงไม่น้อย ดวงตาของเขาแผ่รังสีเเห่งภูมิปัญญาเป็นครั้งคราว

แต่ลึกลงไปในดวงตามีเเววของความโศกเศร้า ในขณะนี้ฉินหยู เดินบนถนนบนภูเขาตามลำพัง
กับนกอินทรีหนุ่มสีดำบนไหล่ของเขา

'เสี่ยวเห้ย นี้มัน 2 ปีเเล้วนะ ท่านพ่อมาเยี่ยมข้าแค่ครั้งเดียวในรอบ 2 ปี'ฉินหยูกัดริมฝีปากของเขา

แล้วพูดคุยกับนกอินทรีหนุ่มบนไหล่ของเขา

เขาพบนกอินทรีนี้หนุ่มเมื่อ 1 ปีก่อนในขณะที่ไปขึ้นบนภูเขา ดงหลานและไม่ยากที่จะนำมันไปด้วย

 มีนกอินทรีเป็นเพื่อนเขาจะได้ไม่เหงามาก เมื่อก่อนเขามีพ่อเป็นเพื่อนทุกวัน ก่อนที่เขาจะเปลี่ยนไป
เเต่มันตั้ง 2 ปีเเล้ว ตั้งเเต่นั้นมาเขาได้เห็นพ่อของเขาเเค่ครั้งเดียว

นกอินทรีดำกระพือปีกของมันและค่อยๆลูบไล้ใบหน้าหน่อมแน้มของฉินหยูทำให้เขาหัวเราะได้ทันที


หลังจากที่เดินสักระยะหนึ่งเขาก็เห็นหญิงตั้งครรภ์ข้างหน้าของเขา ที่กำลังเเบกฟืนท่าทางหนัก

เขาหันไปทางนกอินทรีและพูดว่า 'เสี่ยวเห้ย ไปช่วยคุณป้ากันเถอะ'

เสี่ยวเห้ย กระพือปีกของมันในครั้งเดียวและสั่นสองสามครั้งบนไหล่ฉินหยู โดยไม่ชักช้าฉินหยู

วิ่งอย่างรวดเร็วไปหาผู้หญิงคนนั้นในขณะที่หัวเราะ

'คุณป้า ให้ผมเเบกฟืนช่วยนะ' ฉินหยูพูด


ได้ยินดังนั้นเธอวางมัดฟืนลงและเช็ดเหงื่อบนใบหน้าของเธอออกเมื่อเธอเห็นว่าฉินหยู

เป็นเพียงเด็กผู้ชายคนหนึ่ง เธอหัวเราะเเละพูดว่า'ขอบใจเด็กน้อย ป้าสามารถเเบกเองได้
1 ลี้ ก็จะถึงหมู่บ้านเเล้ว'เธอพูดเเละเเบกฟืนขึ้นบนหลังอีกครั้งเเละไปต่อ

'ข้าไม่ใช่เด็กน้อย ข้าอายุ 8 ปี เเล้ว ข้ามั่นใจว่าข้าสามารถเเบกฟืนได้' ฉินหยูมองเหงื่อบนใบหน้า

ของผู้หญิง จู่ๆเขาก็คว้าฟืนจากเธอเเละพาดไว้บนหลังของเขา

มัดฟืนมันไม่มีอะไรสำหรับคนธรรมดา เเต่สำหรับเด็กอายุ 8 ปีเป็นอะไรที่หนักมาก

อย่างไรก็ตามเนื่องจากฉินหยู มักจะแช่ตัวเองในบ่อน้ำพุร้อนในบ้านสายหมอก
ทำให้ร่างกายของเขาเเข็งเเรงมากกว่าเด็กอายุ 8 ปีปกติและจริง ๆ แล้วเขาสามารถเเบกมันไว้บนหลังของเขา

'คุณป้าเห็นมั้ยว่าผมสามารถเเบกมันได็รึเปล่า? ฮึ คุณยังหาว่าผมเป็นเด็กน้อย?'ฉินหยู กล่าวอย่างภาคภูมิใจ

ใบหน้าหน่อมแน้มเล็ก ๆ ของเขาในขณะปกคลุมไปด้วยฝุ่นมองดูสกปรกมาก

ผู้หญิงคนนั้นประหลาดใจ เป็นเวลาสั้น ๆต่อมาเธอกล่าวด้วยรอยยิ้ม'เจ้าเเข็งเเรงไม่เลวเลย แต่มี 1 ลี้ต้องไป

ป้าเเน่ใจว่าเจ้าไปไม่ถึงเเน่ เด็กน้อยเจ้าน่าจะปล่อยให้ป้าเเบกดีกว่า'

'ใครบอกว่าข้าไปไม่ถึง?'


เห็นผู้หญิงยื่นมือมา ฉินหยูรีบวิ่งไปข้างหน้า จากนั้นเขาก็หันหัวของเขาไปรอบ ๆ และพูดว่า

'คุณป้า ผมเคยทำอย่างนี้มาหลานครั้งเเล้ว ผมรู้ว่ามีหมู่บ้านเล็กๆจากที่นี้เพียง 1 ลี้ มันจะต้อง
เป็นหมู่บ้านของคุณน้าเเน่ไปกันเถอะ. เร็วเข้า ฮ่าา คุณน้าไม่เร็วเท่าผมหรอก! '

หญิงตั้งครรภ์ยิ้มกว้าง 'เด็กคนนี้มาจากไหน มีลูกอย่างนี้พ่อแม่ต้องมีความสุขมากเเน่'


ตอนแรกก็ไม่ได้เป็นเรื่องยากสำหรับฉินหยูที่จะเเบกมัดฟืน แต่หลังจากระยะเวลาหนึ่ง

เขารู้สึกว่าขาของตัวเองเริ่มที่จะไม่มีเเรง หลังจากทั้งหมดที่เขาเเบกมัดฟืนบนหลังไปตามทางในภูเขา
ถึงแม้ว่าฉินหยู ก็มีความแข็งแรง เเต่เขาก็ยังอายุเพียง 8 ปีเท่านั้น

หลังจากนั้นสักพักขาของเขาอยู่ ๆ ก็สั่นสะท้าน


'เด็กน้อย....'ผู้หญิงคนนั้นกล่าวอย่างตื่นตระหนก


'ไม่ต้องห่วงนี้มันเป็นเรื่องง่ายๆ 'ฉินหยูกล่าว หลังจากหันหัวของเขาไปรอบๆ

และดิ้นรนเพื่อวางบนใบหน้าที่ยิ้มแย้ม คำพูดเหล่านั้นทำให้เสียงของเขาเหมือนผู้ชายที่แข็งเเก่ง
แต่ถนนบนเทือกเขา ไม่เห็นด้วยกับพวกเขา เท้าของฉินหยูชนกับหินเเละช่วยไม่ได้ที่เขาจะสะดุด

แล้วร่างกายทั้งหมดของเขาก็ตกลงไปที่พื้นกับ เสียงดังโครม


ผู้หญิงคนนั้นเดินขึ้นไปทันที เธอใช้เวลาถือของฟืนและช่วยฉินหยู ลุกขึ้นยืน ใบหน้าเล็ก ๆ

ของเขาคือตอนนี้เต็มไปด้วยฝุ่นและดูสกปรกมาก เขาหันไปทางผู้หญิงคนนั้น
และพูดว่า 'คุณป้า จริงเเล้ว ... ผมยังสามารถแบกได้ เพียงแค่ตอนนี้ผมสะดุดหิน'

'เอาล่ะป้ารู้ว่าเจ้ายังคงสามารถไปต่อได้ แต่หมู่บ้านขึ้นไปข้างหน้านี้เอง ป้าขอบคุณมาก'


ผู้หญิงเเบกฟืนบนหลังของเธอ เห็นว่าฉินหยูจะไม่ได้รับบาดเจ็บเธอจึงช่วยเขาทำความสะอาดใบหน้าของเขา

จากนั้นเธอก็เตือนเขาอย่างรอบคอบอีกครั้งและอีกครั้งว่าไห้กลับบ้าน หลังจากที่ฉินหยู
ได้พยักหน้าและสัญญาว่าเขาจะทำตาม เธอก็กลับไปยังหมู่บ้าน

ฉินหยุมองหมู่บ้านซึ่งห่างออกไป 100 เมตร ขมวดคิ้วเเล้วพูด 'เสี่ยวเห้ย ถึงเวลาที่จะกลับบ้านแล้ว' แล้วเขาก็ยิ้มทันที

แต่มันเป็นเรื่องง่ายมากสำหรับคุณน้าในขณะนี้ เธอจะไปถึงที่หมู่บ้าน ในเร็ว ๆ นี้.

รอยยิ้มของเขาจะสดใส มันเป็นรอยยิ้มจากก้นบึ้งของหัวใจของเขา


ในสถานที่ลับในบริเวณใกล้เคียง 3 คนมองหน้ากัน พวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่แอบปกป้องฉินหยู


เขาเป็นบุตรชายของเจ้าชายเเวนฉีชิงตะวันออก เเละยังเป็นองค์ชายสาม คังนั้นมันเป็นไปได้ยังไง

ที่จะวิ่งรอบภูเขานี้คนเดียว

'องค์ชายสามยังเป็นเด็ก เเต่เขาใจดีอยู่ก่อนเเล้ว ฉันไม่เข้าใจทำไมฝ่าบาท ถึงส่งองค์ชายสามไป

บ้านสายหมอก เขามาเยี่ยมเเค่ครั้งเดียวใน 2 ปี ทุกครั้งที่เห็นองค์ชายสามนั่งอยู่คนเดียวบน
ยอดเขาทั้งคืน ร่างกายเล็กๆ ล้อมรอบด้วยลมหนาวในยามค่ำคืน ฉันรู้สึกไม่มีความสุขเลย'
หนึ่งคนคร่ำครวญในเสียงต่ำ

ชายอีกคนหนึ่งพยักหน้าและพูดว่า 'เมื่อใดก็ตามที่องค์สามมองขึ้นไปบนท้องฟ้าท่าทาง

ของเขาทำให้ฉันปวดหัวใจ ฝ่าบาทเค้า ... อนิจจา!'

'พอเเล้ว สิ่งที่ฝ่าบาทต้องการจะทำไม่ใช่อะไรที่เราเข้าใจได้  หน้าที่เดียวของพวกเราคือปกป้ององค์ชายสามเท่านั้น'


ทันใดนั้นบนถนนบนภูเขามีชายรูปร่างกำยำ ที่ถูกสร้งขึ้นมาอย่างสง่างาม กับดวงตาขนาดใหญ่เท่ากระดิ่งทองเเดง

ขึ้นมาด้วยความเร็วสูงบนเสือสีแดงเข้มเขาตระโกนเสียงดังขณะที่เขาเห็นฉินหยู' องค์ชายสาม องค์ชายหนึ่งเเละ
องค์ชายสองได้เดินทางมาถึงเเล้ว' ฉินหยู ตื่นเต้นมาก เขาวิ่งไปหาชายกำยำเเละกระโดดขึ้นหลังเสือ
ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เขาบอกอย่างรีบร้อนว่า 'ลุงหวัง เร็วเข้า กรับไปที่บ้านสายหมอกกันเถอะ'


ชายคนนั้นกอดฉินหยูอย่างระวัง เเละขี่เสือคลั่งลงภูเขาด้วยความเร็วสูง ทิ้งไว้เพียงฝุ่น

1 ความคิดเห็น :

รายการบล็อกของฉัน