มันเป็นวันในฤดูหนาว หลังจากหิมะตกหนัก ทั้งที่เมืองยานดูเหมือนว่าจะถูกปกคลุมด้วยเสื้อสีเงินมันเป็นเมืองขนาดใหญ่เมืองยาน
สามารถรองรับได้หลายล้านคนและอื่น ๆ คฤหาสน์ของคนที่อยู่ในความดูแลของ 3 การปกครองประกอบด้วย
พื้นที่ตะวันออก - 'เจ้าชายเเวนฉีชิงตะวันออก' ฉินดี - ตั้งอยู่ในเมือง
คฤหาสน์เจ้าชายเเวนฉีชิงตะวันออก ตรงพื้นที่ขนาดใหญ่กับประตูทางเข้าหลักของมันให้เปิดตลอดเวลา
ทางเข้าหลักยังมีขนาดใหญ่มากพอสำหรับ 6 หรือ 7 คนที่จะเข้าได้ในเวลาเดียวกัน
นอกจากนี้ยังมีชายแข็งแรงสองคนเปลือยอกที่สูงประมาณ 2 เมตรและดูราวกับว่าพวกเขาจะแกะสลักจากหิน
กำลังยืนอยู่ด้านซ้ายและขวาของทางเข้าด้วยดวงตาที่เย็นชากำลังชำเลืองมองฝูงชนที่เดินผ่าน แต่ละคนจะแบก
มีดต่อสู้สีแดงเลือดขนาดใหญ่บนกล้ามเนื้อเหมือนหลังเสือ ตั้งแต่แรกเห็นมีดที่มีความยาวอย่างน้อย 1.5 เมตร
มันเป็นวันที่ฤดูหนาว พื้นดินปกคลุมโดยเกล็ดหิมะ อุณหภูมิต่ำจนน้าใจหายแม้กระทั่งแม่น้ำยังแข็ง แต่ยังมีชาย 2 คนที่เปลือยอก
อย่างไรก็ตามนี้ไม่ได้เป็นสิ่งที่น่าตกใจที่สุด อะไรคือสิ่งที่สิ่งที่น่าตกใจที่สุดคือเสือที่ดูดุร้ายยืนอยู่ข้างพวกเขา
เสือเป็นสีแดงเหมือนเปลวไฟตั้งแต่หัวจรดเท้าและยาวประมาณ 2 เมตรทุกครั้งที่พวกมันฟาดหางเหมือนเเซ่เหล็ก
พวกมันทำให้อากาศเกิดสั่น สายตาของพวกเขาแผ่รังสีเย็นของแสง เสือเหล่านี้จะถูกเรียกว่า 'เสือคลั่ง'
ทันใดนั้นชาย 2 คนเดินออกมาจากคฤหาสน์เจ้าชายเเวนฉีชิงตะวันออก พวกเขายังเปลือยอกและยังนำเสือคลั่งแต่ละตัวมา
พวกเขาได้มาเปลี่ยนกะกับอีกสองคน
ด้านนอกของคฤหาสน์ทุกคนเจตนาหลีกเลี่ยงมันไม่ว่าจะเป็นสมาชิกของครอบครัวที่มีอำนาจ ขุนนางหรือสามัญชนในเมืองยาน
ในลานที่เงียบสงบในคฤหาสน์เจ้าชายเเวนฉีชิงตะวันออก เป็นชายวัยกลางคนสวมชุดสีเขียวนั่งอยู่บนม้านั่งหิน
เด็กผู้ชายที่น่ารักนั่งอยู่บนขาของเขา มีคน12 คนกำลังยืนอยู่ด้านหน้าของเขา 12 คนเหล่านี้เป็นชายชราหรือหญิงสาวหรือชายหนุ่ม
แต่พวกเขามีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันพวกเขาจะแต่งตัวในชุดสีม่วงทั้งหมด
'ท่านพ่อ ท่านเรียกอาจารย์มากมายมาทำไม?'ฉินหยูถาม ฉินหยู อายุ 6 ปีและนั่งอยู่บนต้นขาของพ่อของเขาอย่างเกียจคร้าน
ปั้นก้อนหิมะในมือของเขาเขามองไปที่พ่อของเขาฉิน ดี ด้วยสายตาสงสัย
ฉินดี ลูบหัวฉิน หยูด้วยความรักจากนั้นก็เงยหน้าขึ้นและหันไปทางคน 12 คน ทันใดนั้นเขาก็พูดว่า 'พวกเจ้าได้สอนหยูเอ๋อ
บางเวลา เอาเถอะ ไม่ต้องลังเล ให้ข้ารู้ว่าพวกเจ้ามีความคิดเห็นใด
12 คนมองหน้ากัน แล้วคนเคราขาวก้าวไปข้างหน้า 'ฝ่าบาท' จากที่สังเกตองค์ชายสามจากทุกด้านเราจะเห็นว่า
องค์ชายสามมีความสนใจในทักษะที่ไม่ตรงตามประเพณีบ้าง และไม่สนใจเส้นทางการปกครอง
ตามความคิดเห็นของพวกเราเป็นไปไม่ได้สำหรับองค์ชายสามที่จะกลายเป็นผู้ปกครองที่สมบูรณ์แบบ.
มันดูเหมือนว่าทัศนะคติของพวกเขาทำให้การยืนยันดังกล่าวหลังจากที่อยู่กับเด็กชายมาหลายวันนั้น
ฉินดี ไม่มีข้อสงสัยอย่างไรใด
เขาให้ถอนหายใจมองไปที่ฉิน หยู และพูดด้วยรอยยิ้ม'ฉันเห็น หยูเอ๋อ เป็นเหมือนแม่ของเขาเขาไม่มีความสนใจในอำนาจทางโลก
แต่ในแง่การฝึกศิลปะการต่อสู้เขาคือ ...'
พูดถึงตรงนี้ฉิน ดี หยุด จากนั้นเขาก็โบกมือและพูดว่า'ช่วงนี้พวกเจ้าอาจจะมีปัญหายุ่งยากสักพักหนึ่ง ตอนนี้พวกเจ้าออกไปได้เเล้ว'
'ฝ่าบาท พวกเราทูลลา'
12 คนคำนับพร้อมเพรียงแล้วจากไป ทิ้งลานเล็ก ๆ ให้กลับมาเงียบสงบ
ตอนนี้มีเพียงฉิน ดีและลูกชายของเขาฉิน หยูในลาน ฉิน ดี ยังคงนิ่งเงียบ ครู่หนึ่งหลังจากนั้น
เขามองไปที่ฉิน หยู ด้วยดวงตาที่มีความหมาย อย่างไรก็ตาม ฉิน หยู อายุเพียง 6 ปี ยังไม่สามารถเข้าใจความหมายนี้
'เกิดอะไรกับท่านพ่อ? ทำไมท่านไม่พูด?'เขาสงสัย แต่เขาเป็นคนที่ฉลาดมากดังนั้นเขาจึงไม่รบกวนพ่อของเขา
โดยไม่มีเเม่ตั้งเเต่เด็ก ในใจของเขาพ่อเป็นคนที่สำคัญที่สุดนอกจากพี่ชายทั้ง 2 คนของเขา
หลังจากนั้นครู่หนึ่งฉิน ดี ยังคงนั่งอยู่ ฉิน หยูได้นั่งเงียบอยู่บนต้นขาของพ่อของเขามาตลอด
ทันใดนั้นเสียงร้องของนกกระเรียนดังขึ้น
นกกระเรียนซีอานสีขาวบินไปทางพวกเขา บนนกกระเรียนซีอาน เป็นชายวัยกลางคนนั่งอยู่
ที่มีความสง่างาม รูปหล่อ ท่าทางสูงส่ง นกกระเรียนซีอานใช้เวลาเพียงสั้น ๆ ในขณะที่มาถึงลานภายใน
ทันทีที่เขาเห็นชายวัยกลางคน ฉิน ดี ลุกขึ้นยืนเเละถามอย่างรีบร้อน 'พี่น้องเฟง มีบางอย่างผิดปกติเกี่ยวกับตันเถียน
ของ หยูเอ๋อรีเปล่า ฉันสงสัยว่าคุณจะคิดว่า ...'
เห็นฉินดี เป็นเเบบนั้น เเน่นอน เฟงยูสิ รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนของเขา เขาถอนหายใจและกล่าวว่า
'อย่างที่ข้าพูดไปก่อนหน้านี้ ไม่มีความหวังในการฝึกศิลปะการต่อสู้ของหยูเอ๋อ ฝ่าบาท นี้มันเเปลกมาก
ตันเถียนของเขาไม่สามารถสะสมพลังภายในได้ดังนั้นแน่นอนว่าเขาไม่สามารถฝึกศิลปะการต่อสู้ได้ ตันเถียนนี้
เป็นมาตั้งเเต่เกิด เเม้กระทั่งโอกาสล้านในล้านคนยังไม่มี ดังนั้นข้าจึงไม่รู้วิธีเเก้ไขมัน
ได้ยินเช่นนี้ ฉินดี ค่อย ๆนั่งลงและครุ่นคิดเป็นเวลานาน
'ท่านพ่อ อะไรคือพลังภายใน ทำไมตันเถียนของลูกถึงไม่สามารถสะสมพลังภายใน
สักครู่นี้ครูเหล่านั้นยังได้พูดคุยเกี่ยวกับการปกครองหรือบางสิ่งบางอย่าง พวกเขาหมายถึงอะไร'
ฉิน หยู อายุ 6 ปีดวงตาเบิกกว้างถามอย่างสงสัย
เขาจำได้อย่างเชัดเจนว่าคือสิ่งที่ถูกกล่าวเมื่อไม่นานมานี้
ฉินดี ยิ้มอย่างขมขื่นภายใน แต่เขาก็ยังบรรเทาฉินหยู 'หยูเอ๋อไม่ต้องถามมากเกินไป
เจ้าไม่ชอบการเรียนนี่และต้องการที่จะไปบ้านสายหมอกใช่ไหม
ตาฉินหยู ส่องแสงด้วยความตื่นเต้นทันที มองเช่นดาวสว่างในท้องฟ้ายามค่ำคืน เขาพูดว่า
'อ่าา ดังนั้นฉันจะได้ไม่ต้องเรียนหนังสือที่น่าเบื่ออีกต่อไป บ้านสายหมอกฉันรักน้ำพุร้อนรักมองขึ้นไปที่ดวงดาว
และรักดูดวงอาทิตย์ขึ้น.
ฉินดี ยิ้ม 'เอาล่ะ หยูเอ๋อหากลูกต้องการพ่อจะให้บ้านสายหมอก ยังมีทหารชั้นเยี่ยม 1000 นาย ที่เจ้าจะเป็น
ผู้บังคับบัญชา ถ้าเจ้าต้องการบางสิ่งบางอย่างเพียงแค่บอกพ่อของเจ้าโดยตรง'
'อ่าา ฮาา นี้มันเจ๋งจริงๆ ว้าว บ้านสายหมอกเป็นของเราเเล้วตอนนี้ ฉันจะสามารถแช่ในบ่อน้ำพุร้อนทุกวัน
มันจะรู้สึกดีมาก 'ฉินหยูกล่าว แก้มของเขาเป็นสีแดงด้วยความตื่นเต้น
รอยยิ้มบนใบหน้าของฉินดี คือการฝืนโดยสิ้นเชิง แต่ฉินหยูยังคงไม่เห็นอะไรผิดปกติ
'มันดีที่เจ้าชอบมัน หยูเอ๋อ เจ้าควรไปนอนก่อน เมื่อใดก็ตามที่เจ้าต้องการที่จะไปบ้านสายหมอก เจ้าจะต้องบอก
ปู่ เหลียน'ฉินดี ยิ้มขณะที่แตะหัวฉินหยู
'ลาท่านพ่อ ลาลุงเฟง 'ฉินหยู โปกมือของเขาแล้วไปที่ห้องของเขา
ฉินดี ยิ้มเเละมอง ฉินหยูเข้าไปในห้อง เเล้วใบหน้าของเขาก็เเข็งตัว
ด้วยการสั่นไหวของร่างกายของเขาดูเหมือนว่าเขาจะกลายเป็นควันสีเขียวและหายไปจากลาน
เฟงยูสิ ก็ยังหายไปหลังจากเขาเป็นเหมือนใยฝ้ายที่ลอยอย่างงดงาม
******
ในห้องลับของคฤหาสน์ของเจ้าชายมี 3 คนในขณะนี้ ฉินดี,เฟงยูสิ
ละนักวิชาการที่อยู่ในชุดสีดำและถือพัดด้ามจิ้ว
'ฝ่าบาท ท่านได้ตัดสินใจเเล้วจริงๆหรือ' นักวิชาการสีดำสวมใส่มีลักษณะที่ฉินและถามเขาสงสัย
ฉินดี พยักหน้า 'ตั้งแต่ หยูเอ๋อ ไม่สามารถกลายเป็นผู้นำหรือเป็นผู้เชี่ยวชาญของระดับ เซียนเถียน
มันจะดีกว่าถ้าเขาไม่ได้มีส่วนร่วมในเรื่องนี้ ที่ตันเถียนของเขาเเปลก อนิจจา บางทีมันเป็นสิ่งเดียว
ที่ฉันสามารถไห้เขาได้คือ 10 ปี ของความสุขและความสงบเมื่อเวลามาถึง
สำหรับเราที่จะนำแผนของฉันไปสู่การปฏิบัติ หยูเอ๋อจะไม่สามารถมีกระทั้งวันที่เงียบสงบ
เฟงยูสิ คิดสักพักหนึ่งเเล้วจึงตัดสินใจที่จะพูดออกมา
'ฝ่าบาท,ต้องใช้เเผนนี้จริงๆหรอ ท่านควรจะรู้ผลที่ตามมาทีท่านต้องแบกรับ,ท่านไม่ควร'เฟงยูสิ ถามอีกครั้ง
หนัาของฉินดีเเข็งตัวทันที ดวงตาของเขามีประกายเเสงที่เย็นชา เขาพูดว่า'มันไม่สำคัญหรอก
ถ้าเพื่อบรรพบุรุษตระกูลฉิน หรือ จิงยี่ แผนนี้จะต้องดำเนินการ จิงยี่ทิ้งลูกชายไว้ให้ฉัน 3คน
เเม้ว่าจะมีสิ่งผิดปกติกับหยูเอ๋อตันเถียน เเต่เฟงเอ๋อเเละเชงเอ๋อมีดีที่การศิลปะการต่อสู้และวรรณกรรม
ตามลำดับพอที่จะทำให้เรื่องสำคัญนี้สำเร็จ เสี่ยวหยวนได้เริ่มเดินก่อน 'หมากรุกเงา' ได้เริ่มขึ้น?
นักวิชาการชุดดำเสี่ยวหยวนโบกพัดสองสามครั้งเเล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม'ไม่ต้องกังวลฝ่าบาทข้ามีทุกอย่างในมือเรียบร้อยเเล้ว'
'ดี ดีมาก' ตาของฉินดีเปร่งรังสีสังหารออกมา
******
สถานที่ที่คฤหาสน์เจ้าชายเเวนฉีชิงตะวันออกที่ฉินดีอาศัยอยู่เรียกว่า ทวีปเฉียนหลงที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่
จนถึงวันนี้ยังไม่มีใครที่จะสามารถวัดมันได้
นี่คือสาเหตุส่วนใหญ่จะมีความจริงที่ว่าส่วนทางทิศตะวันออกของทวีป เฉียนหลงถูกครอบครองโดยถิ่น
ทุรกันดารอันยิ่งใหญ่ ถิ่นทุรกันดารมีเทือกเขาสูงจำนวนมากและถูกปกคลุมด้วยป่าทึบ นอกจากนี้ยังมีสัตว์ปีศาจนับไม่ถ้วน
ลึกไปในถิ่นทุรกันดารอันตรายมากขึ้นสัตว์ที่เขาจะได้พบ ไม่เเม้เเต่คนที่มีพลังหรือชื่อเสียง สถานที่นั้นเรียกขานว่า 'ชางเซียน'
ในทวีปเฉียนหลงสามารถที่จะสำรวจในถิ่นทุรกันดารอันยิ่งใหญ่นี้ได้อย่างเต็มที่
ทางด้านทิศตะวันตกของถิ่นทุรกันดารอันยิ่งใหญ่ มี 3 อาณาจักรใหญ่ปกครองได้แก่ ราชวงศ์ชู ราชวงศ์หมิง และราชวงศ์ฮั่น
ประชากรของ 3 อาณาจักร ประมาณ 10 พันล้านคน ใน 3 ราชวงศ์ ราชวงศ์ชูมีพลังมากที่สุด
แต่มีตระกูลที่พิเศษมากในอาณาจักรคือตระกูลฉิน
ตระกูลฉินครอง 3 เขต ประกอบด้วย ภาคตะวันออกของอาณาจักรชู12 มณฑล
มันเป็นมรดกที่ตกทอดมาหลายร้อยปี ฐานรากของมันใน 3 ภูมิภาคตะวันออก
เเม้แต่จักรพรรดิชูยังพบว่ามันยากมากที่จะจัดการกับตระกูลฉินยิ่งไปกว่านั้นตระกูลฉิน
ยังมีกองกำลังที่ไม่เหมือนใครเรียกว่ากองกำลังเสือคลั้ง
เสือคลั่งสีแดงเข้มตั้งแต่หัวจรดเท้าและมีร่างกายที่ค่อนข้างใหญ่เป็นประเภทเฉพาะของเสือ
วิธีการในการปรับปรุงพันธุ์ให้มีขนาดที่ใหญ่เป็นความลับที่สำคัญที่สุดของตระกูลฉิน
ตระกูลฉินมีกองทัพ 600,000 คน เป็น 50,000 คนอยู่ในกองกำลังเสือคลั้ง
ทหารทุกคนขี่เสือคลั้ง มีการโจมตีที่แข็งแกร่งอย่างน่าอัศจรรย์ ควบคู่ไป
กับการทหารทหารม้า ยื่งเป็นเรื่องยากเข้าไปอีกที่จะเอาชนะเสือ
เสียงคำรามของเสือคลั้ง 50,000 ตัวเพียงอย่างเดียวสามารถก่อให้เกิดความเสียหายจำนวนมาก
ให้กับกำลังใจของศัตรู ทหารเสือคลั่ง 50,000 คน สามารถทำลายกองทัพทหารม้าขนาดใหญ่กว่า
100,000 คนได้อย่างง่ายดาย
พลังของศิลปะการต่อสู้มีความสำคัญยิ่งในทวีปเฉียนหลงแต่ละแห่งใน 3 อาณาจักรใหญ่ต้อง
มีอย่างน้อยหนึ่ง ซูเซียน ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ปกป้องอาณาจักรในสายตาของคนทั่วไป ซูเซียน เป็นดั่งพระเจ้า
เมื่อดาบของพวกเขาถูกชักออกพวกเขาสามารถตัดหัวคนจากหลายร้อยหรือหลายพันในทางทีมันผ่าน
โดยใช้ดาบของพวกเขาพวกเขาสามารถบินขึ้นไปในระดับที่เก้าของท้องฟ้า มันเป็นการอวดว่าไม่ใช่เเค่
สิ่งมีชีวิตที่เป็นอมตะที่จะสามารถทำได้ ?
******
บ้านสายหมอกสร้างบนภูเขา ดงหลาน ภูเขาสูง 3000 เมตรดังนั้นจึงเรียกได้ว่าเป็นภูเขาที่สูงเเห่งหนึ่งเลยทีเดียว
2 ปี ผ่านไป
ฉินหยูตอนนี้อายุ 8 ปี เขาได้เติบโตเเละขึ้นสูงไม่น้อย ดวงตาของเขาแผ่รังสีเเห่งภูมิปัญญาเป็นครั้งคราว
แต่ลึกลงไปในดวงตามีเเววของความโศกเศร้า ในขณะนี้ฉินหยู เดินบนถนนบนภูเขาตามลำพัง
กับนกอินทรีหนุ่มสีดำบนไหล่ของเขา
'เสี่ยวเห้ย นี้มัน 2 ปีเเล้วนะ ท่านพ่อมาเยี่ยมข้าแค่ครั้งเดียวในรอบ 2 ปี'ฉินหยูกัดริมฝีปากของเขา
แล้วพูดคุยกับนกอินทรีหนุ่มบนไหล่ของเขา
เขาพบนกอินทรีนี้หนุ่มเมื่อ 1 ปีก่อนในขณะที่ไปขึ้นบนภูเขา ดงหลานและไม่ยากที่จะนำมันไปด้วย
มีนกอินทรีเป็นเพื่อนเขาจะได้ไม่เหงามาก เมื่อก่อนเขามีพ่อเป็นเพื่อนทุกวัน ก่อนที่เขาจะเปลี่ยนไป
เเต่มันตั้ง 2 ปีเเล้ว ตั้งเเต่นั้นมาเขาได้เห็นพ่อของเขาเเค่ครั้งเดียว
นกอินทรีดำกระพือปีกของมันและค่อยๆลูบไล้ใบหน้าหน่อมแน้มของฉินหยูทำให้เขาหัวเราะได้ทันที
หลังจากที่เดินสักระยะหนึ่งเขาก็เห็นหญิงตั้งครรภ์ข้างหน้าของเขา ที่กำลังเเบกฟืนท่าทางหนัก
เขาหันไปทางนกอินทรีและพูดว่า 'เสี่ยวเห้ย ไปช่วยคุณป้ากันเถอะ'
เสี่ยวเห้ย กระพือปีกของมันในครั้งเดียวและสั่นสองสามครั้งบนไหล่ฉินหยู โดยไม่ชักช้าฉินหยู
วิ่งอย่างรวดเร็วไปหาผู้หญิงคนนั้นในขณะที่หัวเราะ
'คุณป้า ให้ผมเเบกฟืนช่วยนะ' ฉินหยูพูด
ได้ยินดังนั้นเธอวางมัดฟืนลงและเช็ดเหงื่อบนใบหน้าของเธอออกเมื่อเธอเห็นว่าฉินหยู
เป็นเพียงเด็กผู้ชายคนหนึ่ง เธอหัวเราะเเละพูดว่า'ขอบใจเด็กน้อย ป้าสามารถเเบกเองได้
1 ลี้ ก็จะถึงหมู่บ้านเเล้ว'เธอพูดเเละเเบกฟืนขึ้นบนหลังอีกครั้งเเละไปต่อ
'ข้าไม่ใช่เด็กน้อย ข้าอายุ 8 ปี เเล้ว ข้ามั่นใจว่าข้าสามารถเเบกฟืนได้' ฉินหยูมองเหงื่อบนใบหน้า
ของผู้หญิง จู่ๆเขาก็คว้าฟืนจากเธอเเละพาดไว้บนหลังของเขา
มัดฟืนมันไม่มีอะไรสำหรับคนธรรมดา เเต่สำหรับเด็กอายุ 8 ปีเป็นอะไรที่หนักมาก
อย่างไรก็ตามเนื่องจากฉินหยู มักจะแช่ตัวเองในบ่อน้ำพุร้อนในบ้านสายหมอก
ทำให้ร่างกายของเขาเเข็งเเรงมากกว่าเด็กอายุ 8 ปีปกติและจริง ๆ แล้วเขาสามารถเเบกมันไว้บนหลังของเขา
'คุณป้าเห็นมั้ยว่าผมสามารถเเบกมันได็รึเปล่า? ฮึ คุณยังหาว่าผมเป็นเด็กน้อย?'ฉินหยู กล่าวอย่างภาคภูมิใจ
ใบหน้าหน่อมแน้มเล็ก ๆ ของเขาในขณะปกคลุมไปด้วยฝุ่นมองดูสกปรกมาก
ผู้หญิงคนนั้นประหลาดใจ เป็นเวลาสั้น ๆต่อมาเธอกล่าวด้วยรอยยิ้ม'เจ้าเเข็งเเรงไม่เลวเลย แต่มี 1 ลี้ต้องไป
ป้าเเน่ใจว่าเจ้าไปไม่ถึงเเน่ เด็กน้อยเจ้าน่าจะปล่อยให้ป้าเเบกดีกว่า'
'ใครบอกว่าข้าไปไม่ถึง?'
เห็นผู้หญิงยื่นมือมา ฉินหยูรีบวิ่งไปข้างหน้า จากนั้นเขาก็หันหัวของเขาไปรอบ ๆ และพูดว่า
'คุณป้า ผมเคยทำอย่างนี้มาหลานครั้งเเล้ว ผมรู้ว่ามีหมู่บ้านเล็กๆจากที่นี้เพียง 1 ลี้ มันจะต้อง
เป็นหมู่บ้านของคุณน้าเเน่ไปกันเถอะ. เร็วเข้า ฮ่าา คุณน้าไม่เร็วเท่าผมหรอก! '
หญิงตั้งครรภ์ยิ้มกว้าง 'เด็กคนนี้มาจากไหน มีลูกอย่างนี้พ่อแม่ต้องมีความสุขมากเเน่'
ตอนแรกก็ไม่ได้เป็นเรื่องยากสำหรับฉินหยูที่จะเเบกมัดฟืน แต่หลังจากระยะเวลาหนึ่ง
เขารู้สึกว่าขาของตัวเองเริ่มที่จะไม่มีเเรง หลังจากทั้งหมดที่เขาเเบกมัดฟืนบนหลังไปตามทางในภูเขา
ถึงแม้ว่าฉินหยู ก็มีความแข็งแรง เเต่เขาก็ยังอายุเพียง 8 ปีเท่านั้น
หลังจากนั้นสักพักขาของเขาอยู่ ๆ ก็สั่นสะท้าน
'เด็กน้อย....'ผู้หญิงคนนั้นกล่าวอย่างตื่นตระหนก
'ไม่ต้องห่วงนี้มันเป็นเรื่องง่ายๆ 'ฉินหยูกล่าว หลังจากหันหัวของเขาไปรอบๆ
และดิ้นรนเพื่อวางบนใบหน้าที่ยิ้มแย้ม คำพูดเหล่านั้นทำให้เสียงของเขาเหมือนผู้ชายที่แข็งเเก่ง
แต่ถนนบนเทือกเขา ไม่เห็นด้วยกับพวกเขา เท้าของฉินหยูชนกับหินเเละช่วยไม่ได้ที่เขาจะสะดุด
แล้วร่างกายทั้งหมดของเขาก็ตกลงไปที่พื้นกับ เสียงดังโครม
ผู้หญิงคนนั้นเดินขึ้นไปทันที เธอใช้เวลาถือของฟืนและช่วยฉินหยู ลุกขึ้นยืน ใบหน้าเล็ก ๆ
ของเขาคือตอนนี้เต็มไปด้วยฝุ่นและดูสกปรกมาก เขาหันไปทางผู้หญิงคนนั้น
และพูดว่า 'คุณป้า จริงเเล้ว ... ผมยังสามารถแบกได้ เพียงแค่ตอนนี้ผมสะดุดหิน'
'เอาล่ะป้ารู้ว่าเจ้ายังคงสามารถไปต่อได้ แต่หมู่บ้านขึ้นไปข้างหน้านี้เอง ป้าขอบคุณมาก'
ผู้หญิงเเบกฟืนบนหลังของเธอ เห็นว่าฉินหยูจะไม่ได้รับบาดเจ็บเธอจึงช่วยเขาทำความสะอาดใบหน้าของเขา
จากนั้นเธอก็เตือนเขาอย่างรอบคอบอีกครั้งและอีกครั้งว่าไห้กลับบ้าน หลังจากที่ฉินหยู
ได้พยักหน้าและสัญญาว่าเขาจะทำตาม เธอก็กลับไปยังหมู่บ้าน
ฉินหยุมองหมู่บ้านซึ่งห่างออกไป 100 เมตร ขมวดคิ้วเเล้วพูด 'เสี่ยวเห้ย ถึงเวลาที่จะกลับบ้านแล้ว' แล้วเขาก็ยิ้มทันที
แต่มันเป็นเรื่องง่ายมากสำหรับคุณน้าในขณะนี้ เธอจะไปถึงที่หมู่บ้าน ในเร็ว ๆ นี้.
รอยยิ้มของเขาจะสดใส มันเป็นรอยยิ้มจากก้นบึ้งของหัวใจของเขา
ในสถานที่ลับในบริเวณใกล้เคียง 3 คนมองหน้ากัน พวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่แอบปกป้องฉินหยู
เขาเป็นบุตรชายของเจ้าชายเเวนฉีชิงตะวันออก เเละยังเป็นองค์ชายสาม คังนั้นมันเป็นไปได้ยังไง
ที่จะวิ่งรอบภูเขานี้คนเดียว
'องค์ชายสามยังเป็นเด็ก เเต่เขาใจดีอยู่ก่อนเเล้ว ฉันไม่เข้าใจทำไมฝ่าบาท ถึงส่งองค์ชายสามไป
บ้านสายหมอก เขามาเยี่ยมเเค่ครั้งเดียวใน 2 ปี ทุกครั้งที่เห็นองค์ชายสามนั่งอยู่คนเดียวบน
ยอดเขาทั้งคืน ร่างกายเล็กๆ ล้อมรอบด้วยลมหนาวในยามค่ำคืน ฉันรู้สึกไม่มีความสุขเลย'
หนึ่งคนคร่ำครวญในเสียงต่ำ
ชายอีกคนหนึ่งพยักหน้าและพูดว่า 'เมื่อใดก็ตามที่องค์สามมองขึ้นไปบนท้องฟ้าท่าทาง
ของเขาทำให้ฉันปวดหัวใจ ฝ่าบาทเค้า ... อนิจจา!'
'พอเเล้ว สิ่งที่ฝ่าบาทต้องการจะทำไม่ใช่อะไรที่เราเข้าใจได้ หน้าที่เดียวของพวกเราคือปกป้ององค์ชายสามเท่านั้น'
ทันใดนั้นบนถนนบนภูเขามีชายรูปร่างกำยำ ที่ถูกสร้งขึ้นมาอย่างสง่างาม กับดวงตาขนาดใหญ่เท่ากระดิ่งทองเเดง
ขึ้นมาด้วยความเร็วสูงบนเสือสีแดงเข้มเขาตระโกนเสียงดังขณะที่เขาเห็นฉินหยู' องค์ชายสาม องค์ชายหนึ่งเเละ
องค์ชายสองได้เดินทางมาถึงเเล้ว' ฉินหยู ตื่นเต้นมาก เขาวิ่งไปหาชายกำยำเเละกระโดดขึ้นหลังเสือ
ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เขาบอกอย่างรีบร้อนว่า 'ลุงหวัง เร็วเข้า กรับไปที่บ้านสายหมอกกันเถอะ'
ชายคนนั้นกอดฉินหยูอย่างระวัง เเละขี่เสือคลั่งลงภูเขาด้วยความเร็วสูง ทิ้งไว้เพียงฝุ่น
ขอบคุณครับ
ตอบลบ